วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เลี้ยงน้องชูการ์ยังไงให้เชื่อง

สวัสดีค่าทุกคน กลับมาเจอกันอีกแล้ว หลังจาก 2 โพสต์ที่ผ่านมา เป็นเรื่องราวเศร้าๆของน้องชูการ์ไปแล้ว วันนี้เรามาเปลี่ยนโหมดกันดีกว่า เฟิร์นจะมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของนิสัยของน้องชูการ์ว่าเป็นยังไง รวมทั้งมีเทคนิคในการเลี้ยงน้องยังไงให้เชื่อง น่ารักมุ้งมิ้งกับเรา มาติดตามไปด้วยกันเลยค่าา...
แบทแมนน้อยผู้น่ารัก
โดยทั่วไปแล้วน้องชูการ์จะมีนิสัยที่ขี้เซามากๆ ตอนกลางวันนี่จะหลับตลอด แต่จะคึกคักตอนกลางคืน เพราะน้องเป็นสัตว์ที่หากินตอนกลางคืน จะสังเกตได้ว่า พอตกดึกสักประมาณเที่ยงคืน ตีหนึ่งเป็นต้นไป น้องๆของเราจะเริ่มส่งเสียง ยิ่งถ้ามีน้องๆอยู่ด้วยกันหลายๆตัว จะยิ่งเสียงดังมาก เพราะน้องเล่นกันอย่างสนุกสนาน นี่ขนาดเฟิร์นมีแค่ 2 ตัวคือแบทกับแมท ยังส่งเสียงดังกันลั่นเลย


แมทธิวสู้กล้อง

สำหรับนิสัยของน้องชูการ์ ขึ้นอยู่กับแต่ละตัว รวมทั้งตัวผู้เลี้ยงแต่ละคนด้วย ว่ามีพฤติกรรมการเลี้ยงน้องยังไง ในช่วงแรกที่ได้รับน้องมาเลี้ยงนั้น เราอาจจะพบกับปัญหาก็คือ น้องยังไม่คุ้นเคย และกลัวเรา คิดว่าเราเป็นอันตราย จึงทำให้น้องร้อง ทำเสียงขู่ใส่ บางตัวอาจมีการฉก กัด แต่ยังไม่อันตรายมาก เพราะน้องยังเด็ก ฟันยังซี่เล็กไม่เจ็บมาก แต่ถ้าน้องโตไปแล้วยังก้าวร้าวล่ะก็ รับรองว่าถ้าถูกกัดทีได้มีเสียเลือดกันบ้าง ดังนั้น เราจึงควรเลี้ยงน้องตั้งแต่ยังเด็ก เพื่อทำความคุ้นเคยกันไป จะได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

สำหรับวิธีการเลี้ยงน้องให้เชื่อง ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่เรามีใจรักน้อง ต้องคอยดูแลเอาใจใส่น้องมากๆ เพราะน้องชูการ์เป็นสัตว์ที่ชอบการสนใจ ใส่ใจเอาใจมากๆ น้องเป็นสัตว์ที่ติดเจ้าของนะคะ ถ้าเราเลี้ยงน้องดีๆ รักน้อง ใส่ใจน้องมากๆ น้องก็จะรักและติดเราอย่างกับลูกแหง่ติดแม่เลย

                             

อยากให้น้องเชื่องหรือติดเราไวๆ เราก็ต้องหมั่นเล่นกับน้องบ่อยๆนะคะ ยิ่งตอนกลางคืนถ้าได้เล่นกับน้องช่วงนั้น น้องจะยิ่งชอบและรู้สึกว่ามีเราเป็นเพื่อนเล่น จะค่อยๆสนิทกันไปเรื่อยๆ น้องก็จะเริ่มไว้ใจและติดเราสุดๆ ถ้าสนิทมากๆ ต่อไปเรียกชื่อน้องหรือทำสัญญาณเรียกให้น้องมาหาเรา น้องก็จะกระโดดหรือรีบวิ่งมาหาเราเหมือนหมาที่เชื่องและฉลาดเลยล่ะค่ะ เทคนิค คือ หาของ อย่างเช่นเชือก หรือของเล่นอะไรห้อยๆให้น้องได้ไล่จับ เล่นโดยการเอาเชือกแกว่งๆไปมาให้น้องไล่งับไล่จับ เป็นการให้น้องได้ออกกำลังกายไปในตัวอีกด้วยนะ พอเล่นเสร็จก็ให้รางวัลน้อง เป็นขนมแสนอร่อย หรือผลไม้โปรดที่น้องชอบกินบ่อยๆ ทำแบบนี้ทุกวัน น้องก็จะยิ่งสนิทและคุ้นเคยกับเรา เชื่องสุดๆเลยล่ะค่าาา
น้องแมทนิ่งจนจับยืนได้เลย
น้องแมทเล่นนิ้ว
น้องแมทลงโอ่ง

เป็นไงบ้างคะ กับวิธีการเลี้ยงน้องให้เชื่อง และสนิทกับเรามากขึ้น ง่ายมากๆเลยค่ะ แค่ใช้ความใส่ใจดูแลอย่างใกล้ชิด ให้ความรักกับน้อง จะได้อยู่กันอย่างแฮปปี้ทั้งเจ้าของและน้องชูการ์ที่รักของเรา...



วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

การดูแลน้องชูการ์เมื่อป่วย

สวัสดีค่ะ ผ่านไปแล้ว 4 โพสต์ เรื่องที่ผ่านมาเป็นเรื่องของน้องแบทแมน วันนี้เฟิร์นก็มีเรื่องของน้องชูการ์จะมาเล่าแบ่งปันประสบการณ์ให้เพื่อนๆได้ฟังกันอีกเรื่องนะคะ เรื่องนี้เป็นเรื่องของน้องแพทตี้ น้องเป็นตัวเมีย เรื่องจะเป็นยังไงบ้าง มาติดตามกันเลยค่ะ

หลังจากที่ซื้อแบทแมนมาเลี้ยงแล้ว เฟิร์นก็อยากได้น้องชูการ์ตัวเมียมาเป็นพื่อนเล่นกับแบทแมน เลยไปซื้อน้องมาเพิ่มอีกหนึ่งตัว เดินไปร้านพี่เก๋ก่อน แต่ก็ไม่มีน้องตัวเมีย เลยเดินไปดูร้านอื่นๆอีก ก็มาเจอร้านึง เป็นร้านคุณป้า เฟิร์นก็เข้าไปดู มีน้องๆชูการ์เยอะมาก เราก็เลือกดู ตอนแรกไม่คิดจะซื้อที่ร้านนี้ เพราะดูน้องๆอยู่กันแบบแออัด เบียดกันหลายตัวเกินไป รวมทั้งมีน้องบางตัวดูป่วยๆ ไม่แข็งแรง ไม่สมประกอบเลย แต่เราก็ไปเจอน้องตัวนึง น้องน่ารักมาก อยู่แยกออกมาจากกรงที่มีชูการ์หลายๆตัว น้องตัวนี้ ไม่ถึงกับซนมาก แต่ก็ไม่ได้ซึมอะไร เราเลยขอป้ามาดูตัวนี้ ป้าก็จับน้องออกมาให้เราเล่น น้องตัวเล็กมาๆ เล็กว่าแบทแมนตอนซื้อมาใหม่ๆอีก แต่น้องน่ารัก เป็นตัวเมีย น้องดูเชื่องมาก เอามาวางบนมือ ก็ยอมแต่โดยดี มาดมมือเราฟุดฟิด เดินไต่ไปมาบนมือ บนแขน ไม่ร้อง ไม่กัดเลย แต่ดูไปดูมาน้องดูเหมือนไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่าน้องง่วงหรือเชื่องๆ เราชอบตัวนี้ รู้สึกถูกชะตา อยากเลี้ยงน้อง เราเลยซื้อน้องตัวนี้ไป แล้วตั้งชื่อว่าน้อง "แพทตี้" เรียกสั้นๆว่า"แพท"

น้องแพทตี้

               กลับบ้านมาน้องก็เอาแต่นอน เราก็คิดว่าเป็นธรรมดาของลูกชูการ์วัยนี้อยู่แล้วที่จะขี้เซา นอนกลางวันตลอด แต่เราก็คอยสังเกตอาการน้องอยู่เรื่อยๆ พอเลี้ยงไปได้สักประมาณ 1 อาทิตย์ น้องก็ยังง่วง แล้วก็เริ่มมีอาการซึมๆ ไม่ค่อยยอมกินอาหารเลย เราก็พยายามป้อนให้น้องกินให้ได้มากที่สุด แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น แล้วน้องก็เริ่มมีอาการ ฟึดฟัดที่จมูก เหมือนคนเป็นหวัด หายใจไม่ออก มีน้ำมูกไหล ดูน้องคัดจมูก หายใจไม่สะดวกเท่าไหร่ เลยตัดสินใจพาน้องไปหาหมอ พอเจอหมอ หมอดูอาการก็บอกว่าน้องยังเล็กเกินไป ตรวจฟังหัวใจยังไม่ได้เลย เพราะฟังไม่รู้เรื่อง ตัวน้องยังเล็กเกินไป เราได้ยินแบบนั้นก็เศร้าเลย สงสารน้องมาก เราก้เลยถามว่า แล้วถ้าอย่างนี้ ต้องดูแลน้องยังไงบ้าง หมอก็บอกให้จับแยกน้องออกจากตัวอื่นก่อน จะได้ไม่ติดหวัดกัน แล้วหมอก้ให้ยากระตุ้นการอยากอาหารมาให้น้องกิน

               พอกลับบ้านมาเราก็จับน้องแพทแยกกับแบทแมน เพราะจะได้ดูอาการและไม่ให้ติดหวัดกัน เราก็คอยป้อนยาน้อง ป้อนข้าวน้องไปเรื่อยๆ น้องก็เริ่มดีขึ้น แต่มีวันนึงเราได้ยินเสียงน้องหายใจแบบติดขัดมาด เสียงเหมือนคนหายใจไม่ออก ต้องหายใจทางปากแทน เราเลยไปดูน้อง ก็เห็นน้องนอนหายใจทางปากอยู่จริงๆ เราก็ตกใจ รีบหยิบตัวน้องขึ้นมาดู ก็เห็นน้องมีขี้มูกแข็งสีเขียวเกาะติดที่รูจมูกทั้งสองข้างเลย ปิดรูหายใจน้องหมด น้องถึงต้องหายใจทางปาก เราเห็นแบบนั้นแล้ว เราสงสารน้องมาก น้องตัวเล็กนิดเดียว เราเลยไปเอาคัตตอนบัตอันเล็กๆ มาชุบน้ำอุ่น แล้วเอามาเช็ดที่รูจมูกน้อง โดยการใช้ปลายคัตตอนบัตที่ชุบน้ำอุ่น ค่อยๆเขี่ยไปตรงที่รูจมูกน้องที่มีขี้มูกแข็งๆเกาะอยู่ เขี่ยให้ก้อนขี้มูกค่อยๆหลุดออกมา เพื่อเปิดทางให้น้องหายใจได้สะดวกขึ้น พอเขี่ยออกหมด เราก็เช็ดทำความสะอาดบริเวณจมูกน้อง แล้วป้อนยาพาน้องกินข้าว น้องก็เริ่มมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ น้องกินได้เยอะขึ้นมากๆ เริ่มเล่นซนขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังดูป่วยๆซึมอยู่นิดหน่อย

เอาแต่นอนทั้งวัน


              หลังจากนั้นก็เลี้ยงน้องแพทมาเรื่อยๆ จนวันนึงเราเปิดกรงไปเจอน้องนอนหงาย ท้องแข็งอยู่ เราก็นึกว่าน้องหลับ แต่ผิดสังเกตที่น้องนิ่งมาก แล้วดูตัวแข็งๆ เราเลยลองดูใกล้ น้องไม่หายใจแล้ว จับดูที่ท้อง ปรากฏว่าน้องท้องแข็งแล้วก้ดูบวมๆกว่าปกติ เราเสียใจมากที่น้องจากไป เราก้ไม่รู้ว่าทำไมน้องถึงจากไปเร็วขนาดนี้ เราเลยลองไปเซิร์ชหาดูในเน็ต ดูจากอาการ ก็พบว่าน้องน่าจะเป็นบิด แล้วน้องก็จากไป

              เราเสียใจที่ช่วยน้องไว้ไม่ได้ แต่เราก็ดูแลน้องดีที่สุดแล้ว เราก็คิดไปว่าอย่างน้อยก็ดีแล้วที่พาน้องมาเลี้ยง เพราะถ้าน้องอยู่ที่ร้านนั้นต่อไป น้องอาจจะแย่กว่านี้ก็ได้ เฟิร์นเลยอยากมาแบ่งปันกับเพื่อนๆให้เพื่อนได้ดูแลและคอยสังเกตการณ์ดูว่า น้องๆชุการ์ของเพื่อนมีอาการผิดปกติ หรือไม่สบายอะไรหรือเปล่า เพราะชูการืเป็นสัตว์ที่มีความอดทนมาก ไม่ค่อยแสดงออกว่าป่วยอยู่ เราแทบไม่รู้เลยว่าน้องป่วย จนกว่าจะอาการหนักมากแล้วสุดท้ายก็รักษาไม่ทัน สายเกินไป อย่าปล่อยให้เป็นแบบนั้นนะคะ ดุแลพวกเค้าดีๆ น้องๆจะได้อยู่กับเราไปนานๆเลย...

น้องแพทตี้ป่วย ซึมจังเลย














แบทแมนชูการ์น้อย

         


           สวัสดีค่าา เป็นยังไงกันบ้างคะ กับโพสต์ที่ผ่านๆมาเกี่ยวกับน้องๆชูการ์ ก่อนหน้ามีแต่โพสต์แนะนำวิธีการเลี้ยงดูน้องๆ วันนี้เฟิร์นมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับน้องชูการ์ของเฟิร์นเองมาเล่าแบ่งปันประสบการณ์ให้เพื่อนๆได้ฟังกันนะคะ เรื่องนี้เป็นเรื่องชูการ์น้อย แบทแมน จะเป็นยังไง มาติดตามกันได้เลยค่าา...

แบทแมน
                                                             
             เริ่มเรื่องเลยเฟิร์นไปเดินจตุจักร เพื่อที่จะไปหาดูน้องชูการ์มาเลี้ยงสักตัวนึง เฟิร์นก็หาข้อมูลไปว่าจะไปร้านไหนดี ก็ไปเจอกับร้านพี่เก๋ ซึ่งเป็นร้านที่ดังเรื่องของชูการ์ น่าเชื่อถือ ไว้ใจได้ เฟิร์นก็ไปซื้อน้องที่ร้านนั้นแต่วันนั้นชุการ์ร้านพี่เก๋มีคนจองหมดแล้ว ด้วยความที่มาแล้วทั้งที ก็เลยต้องยอมเดินดูร้านอื่นแทน เห็นร้านฝั่งตรงข้ามพี่เก๋ยังมีน้องๆชูการ์อยู่ก็เข้าไปดู เห็นน้องตัวนึงกำลังคึกน่าดู ไต่ไปมา เฟิร์นก็เดินไปเล่นด้วย บอกเจ้าของร้านขอดูตัวนี้หน่อย เค้าก็หยิบน้องออกมาวางไว้บนมือเรา พอน้องออกมาอยู่บนมือเราเท่านั้น น้องก็นิ่งไปสักพัก แล้วก็ดมๆ ตัวสั่นๆ แล้วก็เริ่มเดินไปมาช้าๆ เล่นกับน้องไปสักพัก ก็ตัดสินใจซื้อน้องตัวนี้กลับบ้าน เป็นสัตว์เลี้ยงตัวแรกเลย ตั้งชื่อให้น้องว่า "แบทแมน" เรียกสั้นๆว่า "แบท"

            หลังจากได้น้องมา เราก็คอยเลี้ยงดูน้อง แบทแข็งแรงดี มีอาการสั่น กลัวอยู่บ้างในช่วงอาทิตย์แรก เพราะยังไม่คุ้นกับเจ้าของใหม่อย่างเรา พอเลี้ยงมาเรื่อยๆ ก็เริ่มคุ้นเคยกัน อาการสั่นๆกลัวๆก็ลดน้อยลง จนหายไป แบทเป็นชูการ์ที่มีนิสัยน่ารัก ซนมาก เราพาใส่กระเป๋าไปเรียนด้วย ตอนพักเอาแบทออกมาเล่น แบทก็กระโดดเกาะหน้าเรา เอาแบทมาวางบนมือแล้วยื่นมือไปให้ไปเกาะคนอื่น แบทก็ไม่ยอมกระโดดไป แต่กลับกระโดดมาเกาะหน้าเราอีก แบทคงจำได้ว่านี่คือเจ้าของมัน

แบทแมนกัดนิ้วจนบวมอักเสบ
             ปกติทุกเช้าที่กรงแบทจะเสียงดัง เพราะแบทวิ่งเล่น กระโดดไต่ตามกรงไปมา วันนึงแบทอยู่ในกรง พอเราตื่นเช้ามา ก็ไม่ได้ยินเสียงจากกรงแบท เราเลยเดินไปดู ก็เห็นว่าแบทนอนแผ่อยู่ข้างล่างพื้นกรง นอนนิ่งๆ หายใจเบาๆ ไม่ค่อยขยับตัว เราตกใจมาก เปิดกรงเข้าไปดูใกล้ๆ แต่ยังไม่กล้าจับตัวน้องเพราะไม่รู้ว่าบาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า แต่ดูลักษณะขยับช่วงล่างช่วงขาได้ลำบาก เราเลยคิดว่า แบทน่าจะวิ่งเล่นจนตกกรงแล้วทำให้ช่วงขาไม่ดีไป หลังจากนั้นเราก็พาแบทใส่กระเป๋าไปหาหมอเหนือที่รักษาสัตว์เล็กอย่างชูการ์โดยเฉพาะ ระหว่างทางเราก็ใส่อาหารไว้ให้แบท แต่แบทไม่กินเลย เราพยายามป้อนก็กินนิดเดียว แล้วเอาแต่นอนซม ช่วงขากับหางก็เปียกฉี่ไปหมด เพราะแบทยกหางฉี่ไม่ได้แล้ว เราเห็นแล้วสงสารมาก ไม่รู้จะทำยังไง พอเจอหมอก็ให้หมอดูแบทแล้วก็เล่าอาการให้หมอฟัง หมอก็ตรวจไปดูนู่นจับนี่ หมอก็บอกว่าไม่ได้มีอะไรหัก แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ทำไมแบทถึงเป็นแบบนี้ ใช้ขาหลังเดินไม่ได้ เราเห็นแล้วทรมานแทน ใช้แต่ขาหน้าตะเกียกตะกายเดินลากทั้งตัวและขาหลังไป หมอให้ยามาแล้วก็นัดดูอาการพร้อมไปตรวจอีก แต่พอไปตรวจอีกก็ไม่หาย และยังหาสาเหตุไม่ได้ ไม่รู้ว่าเป็นอะไรอยู่ดี กลับมาเราก็ต้องดูแลแบทอย่างดีเป็นพิเศษขึ้นไปอีก เพราะแบทช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้ ยังไม่ค่อยยอมกินข้าว ซึมๆ เริ่มมีอาการเครียด กัดนิ้วตัวเองจนเป็นแผล บวมอักเสบ ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด หมอนัดอีกก็ไปหาอีก แต่ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น แต่ยังโชคดีที่แบทไม่มีแผลหรือเป็นโรคอะไรเพิ่มเติม แล้วก็เริ่มกินข้าว เริ่มเล่นด้วยนิดหน่อย เราก็พอใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง หลังจากนั้นหมอก็ไม่นัดแล้ว แต่ก็ยังให้เราทำกายภาพขาให้แบทไป เราก็ทำใจไว้บ้างว่ายังไงก้คงเดินไม่ได้ แต่ก็ยังมีความหวังบ้าง เราก็ยังลองทำกายภาพให้แบทตลอด โดยการดึงขาหลังสองข้างยืดเข้ายืดออกให้กล้ามเนื้อขาได้ออกกำลังบ้าง ไม่ให้กล้ามเนื้อตาย แต่แบทก็ยังไม่ยอมเดิน จนทุกวันนี้แบทก็ไม่ใช้ขาหลังเดิน แต่เวลาแบทคันแบทก็ใช้ขยับขาหลังเกาได้ เราก็เลยงงว่าทำไมแปลกๆ แต่ก็คิดว่านี่ก็ดีแล้วที่ยังขยับได้ เราก็คอยดูแลแบทต่อไป ตอนนี้แบทเหมือนน้องชูการ์ตัวอื่นๆ ที่ร่าเริง ซนไปตามประสา กินอาหารได้เยอะ ไม่ซึมเหมือนแต่ก่อน เพียงแค่ยังเดินขาหลังไม่ได้เท่านั้น เราก็รู้สึกดีใจแล้ว ที่แบทยังมีชีวิตอยู่กับเราต่อไป

             จากเหตุการณ์นี้ เฟิร์นเลยอยากให้เป็นเรื่องไว้เตือนเพื่อนๆ ไว้เป็นบทเรียนกับใครที่อยากจะเลี้ยงน้อง ต้องดูแลน้องดีๆ จะได้ไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ดูแลให้ดีที่สุด และถึงแม้น้องเค้าจะเป็นยังไง ก็ต้องดูแลน้องเค้าต่อไป เพราะเรารับน้องเค้ามาเลี้ยงแล้ว ต้องรักและใส่ใจน้องให้มากๆ













ตัดเล็บน้องชูการ์กันดีกว่า

         มาแล้วค่าาา กลับมาเจอกันอีกครั้งนะคะ วันนี้เล่นกับน้องๆมา น้องเดินไต่มือไต่แขน เล็บน้องยาวแล้ว เลยข่วนเป็นทาง จิ้มเป็นจุดๆกันเลยทีเดียว เฟิร์นเลยมีวิธีการตัดเล็บน้องๆมาให้เพื่อนๆได้ลองดูกันว่าทำยังไง ยากง่ายแค่ไหน ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า เวลาโดนเล็บน้องๆข่วน อย่าลืมล้างมือหรือบริเวณที่โดนข่วนให้สะอาดด้วยนะคะ ถึงแม้ว่าน้องจะเป็นสัตว์ที่เราเลี้ยงเอง คิดว่าไม่มีอะไรสกปรก แต่ก็ห้ามประมาทเด็ดขาดค่ะ ปลอดภัยไว้ก่อน รักษาความสะอาดไว้ดีที่สุดค่ะ


         อ้อออ ก่อนจะเริ่มสอนการตัดเล็บ ขอแนะนำไว้ก่อนหนึ่งอย่างนะคะ ถ้าน้องยังเล็กๆอยู่ ยังไม่มั่นใจในการตัดเล็บด้วยตัวเอง แนะนำให้ไปที่ร้านที่ขายชูการ์ ให้เค้าตัดเล็บให้น้องก่อน เพราะน้องยังเด็ก เล็บเล็กนิดเดียว เรายังไม่ชำนาญอาจตัดพลาดได้ง่าย เพื่อความสะดวกและปลอดภัยให้ที่ร้านตัดก่อนก็ดีนะค้าาา พอน้องโตกว่านี้หน่อยค่อยเริ่มตัดให้น้องเองก็ได้ค่าาา.


มาเรียนรู้วิธีการตัดเล็บกันเลยดีกว่า...
ขั้นแรกเตรียมอุปกรณ์กันก่อนเลย

    1. กรรไกรตัดเล็บ
    2. ผ้าที่มีขนนุ่มๆ
    3. อาหาร ขนมหรือผลไม้ชิ้นเล็กๆ

กรรไกรตัดเล็บ

ผ้าขนนุ่ม


เตรียมอุปกรณ์กันเรียบร้อยแล้ว ก็มาเริ่มลงมือตัดเล็บกันได้เลยค่าาา...
  1. นำน้องมาไว้บนผ้า แล้วเอาผ้าคลุมหัวน้องไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้น้องกัดเราเวลาตัดเล็บ เพราะน้องๆชูการ์ไม่ชอบการตัดเล็บเป็นอย่างมากเลยค่ะ เรานี่โดนประจำ จนต้องหาผ้าหนาๆนุ่มๆมาห่มคลุมน้องไม่ให้เห็นเวลาตัดเล็บ ไม่งั้นโดนกัดนิ้วแน่!!(แต่ก็มีบางตัวนะคะ ที่ยอมให้ตัดง่ายๆโดยไม่ต้องคลุมผ้าปิดหน้าปิดตาเลย เฟิร์นเคยตัดทั้งสองแบบ เป็นแบบหลังนี่ตัดได้สบายมากกก)
  2. พอคลุมหัวน้องได้ที่แล้ว มั่นใจว่าหัวน้องจะไม่โผล่มาจ๊ะเอ๋เรา ก็ค่อยๆดึงเท้าหน้าและเท้าหลังออกมาทีละข้าง แล้วตัดทีละเล็บอย่างระมัดระวัง เบามือที่สุด โดยตัดแค่ปลายเล็บเท่านั้น อย่าตัดลึกมาก ดูที่เล็บของน้อง ตัดอย่าให้ถึงเส้นเลือดที่เล็บ เพราะถ้าตัดโดนจะทำให้น้องเลือดออก น้องจะเจ็บ อาจจะร้องออกมาได้ น่าสงสารมาก
  3. การตัดเล็บน้องๆเป็นอะไรที่เหนื่อยใช้ได้ ถ้าน้องขัดขืนไม่ยอม ดังนั้น เฟิร์นจึงมีคำแนะนำง่ายๆให้เพื่อนๆได้ลองนำไปทำตามกันดู คือ พอตัดเล็บน้องเสร็จหนึ่งข้าง เราอาจะให้ขนมหรือผลไม้น้องกินเป็นรางวัลที่ยอมให้ตัดเล็บแต่โดยดี เป็นการสอนให้น้องเรียนรู้ไปในตัวว่า ถ้ายอมให้ตัดเล็บ น้องจะได้กินขนมอร่อยๆนะ แล้วครั้งต่อไปเวลาตัดเล็บ น้องจะเริ่มเรียนรู้และยอมให้ตัดง่ายขึ้น วิธีนี้ใช้ได้ดีเลยค่ะ น้องยอมนิ่งมากขึ้น แต่สำหรับน้องตัวไหนที่ยังดื้อไม่ยอมง่ายๆอีก มีเทคนิคอีกอย่างก็คือ ให้ตัดเล็บตอนน้องนอนเลยค่ะ กำลังเคลิ้มๆ หลับสบาย แอบตัดตอนนั้นเลย น้องไม่ทันต้ังตัว รีบตัดให้เสร็จ แต่ต้องตัดด้วยความระมัดระวังนะคะ น้องจะได้เลือดไม่ออก





            จบไปแล้วนะคะ สำหรับการตัดเล็บน้องๆชูการ์ของเรา การตัดเล็บนอกจากจะช่วยให้เล็บน้องสั้นลง ไม่ทำให้ตามมือตามแขนของเรามีรอยแผลขีดข่วนหรือจุดแดงๆจากเล็บของน้องแล้ว ยังช่วยลดปัญหาเวลาน้องเดินหรือไต่บนผ้าที่มีด้ายเยอะๆ เพราะถ้าน้องเล็บแหลมยาว จะทำให้น้องเดินลำบาก ปลายเล็บเกี่ยวกับด้ายที่ผ้าบ่อยๆ ดีไม่ดี พอเล็บเกี่ยวน้องดึงแรงๆอาจทำให้เล็บหลุดหรือเป็นแผลได้ ซึ่งเป็นอันตรายกับน้องๆนะคะ แต่!!!พอตัดเล็บแล้วก็ต้องระวังอีกเหมือนกันค่ะ เพราะช่วงแรกที่ตัดเล็บเสร็จใหม่ๆ น้องจะไม่ชิน และเกาะตามตัวเราหรือเกาะที่ต่างๆไม่ค่อยอยู่ ระวังน้องตกจากที่สูงนะคะ เรื่องเล็กๆน้อยๆก็อย่าลืมดูแลน้องดีๆนะคะ
            
            วันนี้ต้องจบไว้แค่นี้ก่อน ครั้งต่อไปจะมีอะไรมาเล่าให้เพื่อนๆฟัง รอติดตามนะคะ บายยย.




อาหารแสนอร่อยของน้องชูการ์

            สวัสดีค่ะ กลับมาเจอกันอีกแล้วนะคะ ยินดีต้อนรับคนรักชูการ์ทุกคนเลย ครั้งก่อน เฟิร์นได้แนะนำในเรื่องของวิธีการเลือกซื้อน้องชูการ์ไป พอเรารับน้องมาเลี้ยงแล้ว วันนี้เฟิร์นก็จะมาพูดถึงอาหารการกินและวิธีการให้อาหารน้องๆกันนะค้าา ไม่ยากเลย แต่ช่วงแรกๆอาจจะมีติดขัดบ้างนิดหน่อยเป็นธรรมดา สำหรับมือใหม่หัดเลี้ยง แต่ไม่เป็นไรค่ะ เฟิร์นมีคำแนะนำให้เพื่อนๆ ค่อยๆเรียนรู้ไป เดี๋ยวก็ให้อาหารจนชินเอง


เริ่มกันเลยนะคะ...
อันดับแรก มารู้จักอาหารน้องๆชูการ์กันก่อนเลยค่ะ
           สำหรับคนที่เพิ่งซื้อน้องมาเลี้ยง น้องส่วนใหญ่ที่คนขายนำมาขาย จะมีอายุประมาณ 2 เดือนครึ่ง ซึ่งน้องยังเด็กมาก อาหารที่เหมาะกับน้องวัยนี้ คือ อาหารของหมอเหนือ สูตร Starter เป็นอาหารสำหรับน้องวัย 2 เดือนครึ่งถึง 4 เดือน มีสารอาหารที่ครบถ้วนและจำเป็นในการช่วยให้ร่างกายของน้องมีการเจริญเติบโต

สูตร Starter
         
            ส่วนอาหารสูตรต่อมา ตัวนี้เป็นสูตร Growth เหมาะกับน้องๆวัย 4 เดือนขึ้นไป มีสารอาหารต่างๆที่จำเป็นในการเจริญเติบโต ช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่น และบำรุงขน ผิวหนังของน้องๆ
สูตร Growth
           
           และสูตรสุดท้าย คือ รุ่น Mixed Fruits เป็นรสผลไม้รวม อาหารสำหรับน้องๆวัย 4 เดือนขึ้นไป สูตรนี้ช่วยเรื่องของการบำรุงขน ให้นุ่ม เงางาม ไม่หลุดร่วงง่าย ลดกลิ่นของน้องๆ และมีสารอาหารที่จำเป็นในการเจริญเติบโตอีกด้วย อาหารทั้ง 3 สูตรนี้ ราคาจะอยู่ที่ 175 บาทต่อซอง
สูตร Mixed Fruits

           แต่ยังมีอาหารอีกอย่างที่แนะนำ คือ ซีรีแลค อาหารเด็กอ่อนที่เราคุ้นเคยกันดีนั่นแหละค่ะ สามารถเป็นอาหารของน้องๆชูการ์ได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดค่าอาหารลงมา เพราะซีรีแลคจะราคาถูกกว่าอาหารของหมอเหนือถึง 2 เท่า แต่ถ้าใครที่จะให้ซีรีแลคเป็นอาหารน้องๆ แนะนำว่าควรผสมสารอาหารอย่างอื่น เช่น โปรตีนวอมบารูลงไปด้วย เพื่อให้น้องได้รับสารอาหารที่มากขึ้น ส่วนอาหารของหมอเหนือไม่จำเป็นต้องผสมอะไรเพิ่มเติมแล้ว เพราะในนั้นมีสารอาหารครบถ้วนสำหรับน้องๆเรียบร้อย สะดวกในการให้อาหารน้องๆมาก
ซีรีแลคและวอมบารู

เมื่อเรารู้จักอาหารของน้องๆกันไปแล้ว เรามาเริ่มเรียนรู้วิธีการชงอาหารและการให้อาหารน้องๆกันเลยดีกว่าค่ะ เริ่มแรกเลย...
  1. ฉีกซองอาหารเทใส่ลงกล่อง กระปุกหรือโถอะไรก็ได้ที่มีฝาปิดสนิท
  2. นำช้อนชามาตักอาหารประมาณ 2 ช้อน ไม่ต้องตักพูนมาก ใส่ลงไปในจานหรือถ้วยข้าวน้องเกลี่ยๆไปราบไปตามพื้นจานหรือถ้วย
  3. ใช้ช้วนชานั้นตักน้ำอุ่นลงไปในจานหรือถ้วยที่ใส่อาหารลงไปแล้วประมาณ 6-7 ช้อนชา
  4. คนอาหารให้ละลายเข้ากับน้ำไปสักพัก ประมาณ 2 นาที ให้พอข้นประมาณนมข้นหวานหรือโยเกิร์ต ต้องชงให้อาหารละลายให้หมดนะคะ ไม่ควรให้มีอาหารเป็นก้อนๆ เศษๆ มีเทคนิคคือ ใช้ช้อนกดๆ บี้ๆลงไปก่อน ในช่วงแรกที่คนอาหาร จะช่วยให้อาหารแตกตัวละลายเร็วขึ้น อย่าชงจนข้นเกินเพราะน้องกินไปแล้วจะไม่ย่อย ท้องอืดท้องแข็งได้ และอย่าชงเหลวเกินไป เพราะจะทำให้น้องท้องเสียได้อีกเช่นกัน 
  5. นำอาหารไปป้อนน้องโดยการใช้สลิงค์ดูดอาหารขึ้นให้ถึงครึ่งหลอดหรือเต็มหลอด เพื่อเอาไปป้อนใส่ปากน้อง ต้องค่อยๆป้อนนะคะ เดี๋ยวน้องจะสำลักได้ เพราะน้องยังเล็กมาก ปากยังเล็กนิดเดียว กินได้ทีละน้อยๆ ต้องป้อนดีๆ ระวังอาหารจะเข้าจมูกน้องด้วยนะคะ เทคนิคการป้อนน้องนะคะ ถ้าน้องไม่ยอมกินอาหาร ให้จับตัวและหัวน้องด้วยมือที่ไม่ได้ถือสลิงค์ ใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้งล็อกช่วงหัวกับคอของน้อง ส่วนนิ้วอื่นประคองตัวน้องไว้ แล้วใช้ปลายนิ้วโป้งดึงปากล่างน้องออกมาให้เห็นฟันล่าง แล้วเอาสลิงค์ป้อนไปที่ปากน้อง น้องจะค่อยๆแลบลิ้นออกมาเลียอาหารจากสลิงค์เองเลยค่ะ  วิธีป้อนแบบนี้จะช่วยให้น้องยอมกินอาหารได้ง่ายขึ้นและเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่างเจ้าของกับน้องชูการ์ตัวน้อยได้ดีเลยค่ะ เฟิร์นก็ใช้วิธีนี้ตั้งแต่แบทแมนกับแมทธิวเป็นหนูตัวน้อย เพราะระหว่างที่ป้อนอาหารน้องไป น้องก็จะเห็นหน้าเรา รับรู้ได้ว่าคนนี้ให้ข้าวให้น้ำน้อง เลี้ยงดูน้อง ทำความคุ้นเคยกันไปเรื่อยๆ น้องจะค่อยๆจดจำไปเองนะคะ 
ยิ้มมมมมม
ยืนกินบนมือสบายใจเลยยยย





          เป็นยังไงกันบ้างค้าา ได้รู้จักอาหารของน้องชูการ์และวิธีการให้อาหารน้องๆไปแล้ว หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับใครได้หลายๆคนนะคะ ถ้าหากมีอะไรผิดพลาดยังไง ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ แล้วครั้งต่อไป จะมีอะไรมาอัพเดทเกี่ยวกับน้องๆชูการ์ตัวน้อยน่ารักกันอีก ติดตามได้นะค้าาาา...